สถานการณ์ตลาดน้ำมันประจำสัปดาห์วันที่ 16 – 20 ก.ย. 67 และแนวโน้มสัปดาห์วันที่ 23 – 27 ก.ย. 67 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 73.89 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับลดราคาเพิ่มขึ้น +2.85 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 71.03 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +3.15 เหรียญ สหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 73.65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.69 เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น+3.42 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 83.81 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.62เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 83.35 เหรียญสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกในรอบ 4 ปี
* 18 ก.ย. 67 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (Federal Open Market Committee: FOMC) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.5% มาอยู่ที่ 4.75 – 5.0% ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทั้งนี้ FOMC จะจัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 6-7 พ.ย. 67
* 20 ก.ย. 67 สงครามในตะวันออกกลางยกระดับความตึงเครียด โดยกองทัพอากาศอิสราเอลโจมตีเป้าหมายหลายแห่งบริเวณกรุงเบรุตในเลบานอน ทำให้ผู้นำระดับสูงของ Hezbollah 2 ราย คือ นาย Ibrahim Aqil และ Ahmed Wahbi รวมทั้งสมาชิกอีก 16 รายเสียชีวิต การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการระเบิดของเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารทั่วเลบานอนในวันที่ 18-19 ก.ย. 67
* ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin สั่งเพิ่มขนาดกองทัพเป็นครั้งที่ 3 ตั้งแต่ส่งกองทัพเข้าไปในยูเครนเมื่อเดือน ก.พ. 65 โดยขยายขนาดกองทัพอีก 180,000 นาย ส่งผลให้มีจำนวนพลประจำการ 1.5 ล้านนาย และมีเป้าหมายอยู่ที่ 2.38 ล้านนาย ซึ่งจะทำให้กองทัพรัสเซียกลายเป็นกองทัพที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน
* อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอตัว โดยวาณิชธนกิจ Goldman Sachs และ Citigroup Inc. คาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน (GDP) ในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัว 4.7% จากปีก่อนหน้า (ลดลงจากคาดการณ์ครั้งก่อนของ Goldman Sachs และ Citigroup Inc. ที่ 4.9% และ 4.8% ตามลำดับ) หลังจีนรายงาน GDP ในไตรมาส 2/67 เพิ่มขึ้น 4.7% จากปีก่อนหน้า (ไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้น 5.3% จากปีก่อนหน้า)