บริดจสโตนในฐานะผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge หรือการแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับประเทศไทยนำโดยคุณเคอิจิ ชูมะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด ในปีนี้เดินหน้าสนับสนุนทีมนักศึกษาผู้เข้าแข่งขันจากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งเป็นทีมที่กำลังเตรียมพร้อมจะเข้าร่วมลงแข่งขันในรายการ “2023 Bridgestone World Solar Challenge” ระหว่าง 22-29 ตุลาคม 2566 ที่ออสเตรเลีย โดยผู้แข่งขันจะออกตัวจากจุดสตาร์ทที่เมืองดาร์วินเพื่อเข้าสู่เส้นชัยที่เมืองแอดิเลด ด้วยระยะทางรวมกว่า 3,000 กิโลเมตร พร้อมกันนี้ทีมงานจากไทยบริดจสโตนยังได้ร่วมงานเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ STC-4 ของทีมผู้เข้าแข่งขัน และงานเสวนากับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) เพื่อส่งกำลังใจแก่ทีมผู้เข้าแข่งขันให้คว้าชัยชนะในครั้งนี้
คุณเคอิจิ ชูมะ กรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด กล่าวว่า “บริดจสโตนยังคงแสดงความมุ่งมั่นต่อสิ่งแวดล้อม และพร้อมส่งมอบโซลูชั่นด้านการเดินทางอย่างยั่งยืน ในปีนี้เรารู้สึกยินดีที่ร่วมสนับสนุนทีมนักศึกษาไทยจากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ถือเป็นทีมบุกเบิกผลิตรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ทีมแรกของประเทศไทยที่จะลงแข่งขันรายการ 2023 Bridgestone World Solar Challenge โดยมอบงบสนับสนุน พร้อมทั้งจัดทำเสื้อทีมสำหรับผู้เข้าแข่งขันที่ได้ออกแบบด้วยเฉดสีเหลืองไปส้มเพื่อสื่อถึงพระอาทิตย์และใช้ลายเส้นของเปลวสุริยะให้มีลักษณะเคลื่อนไหว รวมถึงสนับสนุนผลิตภัณฑ์ ECOPIA EP 300 เป็นนวัตกรรมยางรักษ์โลกจากบริดจสโตนที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Nano Pro-TechTM เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น ช่วยเพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะถนน และช่วยให้ขับขี่อย่างมั่นใจ นอกจากนี้เรายังช่วยเตรียมความพร้อมและความมั่นใจก่อนเข้าแข่งขันในสนามจริงด้วยการเชิญทีมผู้เข้าแข่งขันนำรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประดิษฐ์ขึ้นเข้าทดสอบที่สนามทดสอบไทยบริดจสโตน ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่บริดจสโตนได้ร่วมสนับสนุนศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของนักศึกษาไทยด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมการประดิษฐ์รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ให้ประจักษ์ในเวทีการแข่งขันระดับโลก รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทยต่อไป”
การแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge นับเป็นการส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกอย่างพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อส่งมอบนวัตกรรมการเดินทางอย่างยั่งยืน ทั้งยังส่งเสริมความรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี รวมถึงภูมิศาสตร์ ไปจนถึงสภาพอากาศ เนื่องในโอกาสที่บริดจสโตนฉลองครบรอบ 10 ปี ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของการแข่งขันรายการ Bridgestone World Solar Challenge และด้วยการเป็นปีแห่งการฉลองครบรอบ 60 ปี ในวงการมอเตอร์สปอร์ต บริดจสโตนยังแสดงความมุ่งมั่นในระยะยาวเพื่อสนับสนุนกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกที่มุ่งสู่ความยั่งยืน ซึ่งสะท้อนผ่านการแข่งขันรายการ “2023 Bridgestone World Solar Challenge” สอดคล้องกับคุณค่า “ด้าน Energy (พลังงาน) ด้วยการตระหนักถึงสังคมแห่งการเดินทาง ตั้งเป้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” และ “ด้าน Emotion (ความรู้สึก) ด้วยการสร้างความตื่นเต้น และความสุขในสังคมแห่งการเดินทาง” ใน Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)*”
* กลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนได้กำหนด “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” เพื่อช่วยให้บรรลุวิสัยทัศน์: “สู่ปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) บริดจสโตนยังคงส่งมอบคุณค่าให้สังคมและลูกค้าในฐานะองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชั่นอย่างยั่งยืน” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการบริหารควบคู่กับการสร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” ประกอบด้วยคุณค่า 8 ด้านของบริดจสโตนที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร “E” (ด้าน Energy (พลังงาน), ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม), ด้าน Efficiency (ประสิทธิภาพ), ด้าน Extension (การเติบโต), ด้าน Economy (เศรษฐกิจ), ด้าน Emotion (ความรู้สึก), ด้าน Ease (ความสะดวกสบาย) และด้าน Empowerment (พลังทางสังคม) ซึ่งกลุ่มบริษัทในเครือบริดจสโตนจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผ่านเจตจำนงและกระบวนการทำงานร่วมกับพนักงาน สังคม พันธมิตร และลูกค้า เพื่อสังคมที่ยั่งยืน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bridgestone.com/corporate/news/pdf/2022030101.pdf