จากการลงทุนในครั้งนี้ทำให้เอาท์ริกเกอร์เป็นเจ้าของรีสอร์ทสามแห่งขนาด 372 ห้อง ตั้งอยู่ริมชายหาดที่เป็นสุดยอดทำเลติดทะเลในภูมิภาคเอเชีย โดยจะทำการปรับปรุงรีสอร์ททั้งสามแห่ง ได้แก่ มานะไทย เกาะสมุย มานะไทย เขาหลัก และ มานะไทย สุรินทร์ ภูเก็ต เพื่อรีแบรนด์และเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันภายในสิ้นปีนี้ ภายใต้แบรนด์เอาท์ริกเกอร์ ได้แก่ เอาท์ริกเกอร์ เกาะสมุย บีช รีสอร์ท เอาท์ริกเกอร์ เขาหลัก บีช รีสอร์ท และ มานะไทยภูเก็ตบายเอาท์ริกเกอร์®
Jeff Wagoner, President and CEO of Outrigger Hospitality Group“การลงทุนเข้าซื้อรีสอร์ททั้งสามแห่งนี้สอดคล้องกับแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของเอาท์ริกเกอร์ที่มุ่งมั่นในการขยายพอร์ทธุรกิจในเอเชียและที่อื่นๆ สานต่อพันธกิจในการเป็น “แบรนด์พรีเมียร์รีสอร์ทระดับโลก” อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของเราต่อตลาดการท่องเที่ยวของประเทศไทย อันเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้านวัฒนธรรม และเราจะนำความสำเร็จในอดีตมาสร้างความสำเร็จให้กับรีสอร์ททั้งสามแห่งนี้” เจฟ วาโกเนอร์ ประธานและซีอีโอ เอาท์ริกเกอร์ ฮอสพิทอลลิตี้ กรุ๊ป กล่าว
ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 148 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สง่างามสไตล์ ‘โคโลเนียล’ ตั้งอยู่บนหาดละไม เกาะสมุย เกาะที่ได้ชื่อว่าสวยงามราวเกาะสวรรค์และใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย ใช้เวลาบินเพียง 70 นาทีจากกรุงเทพฯ และ 55 นาทีจากภูเก็ต แบ่งเป็นห้องสวีท 34 ห้อง สปา ห้องอาหาร 3 แห่ง คิดส์คลับ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับงานแต่งงานและงานอีเว้นท์ต่างๆ รีสอร์ทตั้งอยู่บนหาดทรายสีขาวและทิวต้นมะพร้าวเรียงราย รายล้อมด้วยร้านอาหารและแหล่งช้อปปิ้งที่มีให้เลือกมากมาย
เอาท์ริกเกอร์ เขาหลัก บีช รีสอร์ท
ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพียง 75 นาที โดยรถยนต์ ตั้งอยู่บนหาดบางสัก มองเห็นวิวทิวทัศน์ทะเลอันดามันและหาดทรายละเอียดทอดยาวที่สวยงามติดอันดับโลก ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 158 ห้อง แบ่งเป็นห้องสวีทและวิลล่า 12 ห้อง ร้านอาหาร 2 แห่ง บาร์ และคิดส์คลับ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมยอดนิยมในท้องถิ่น ได้แก่ ขี่ช้าง พายเรือแคนู สำรวจป่าและน้ำตก
มานะไทย ภูเก็ต บาย เอาท์ริกเกอร์®
ที่พักบูทีครีสอร์ทมีสไตล์พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ตั้งอยู่ริมหาดทรายขาวละเอียดของหาดสุรินทร์ ทางทิศใต้ของสนามบินนานาชาติภูเก็ต ใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 66 ห้อง แบ่งเป็นห้องสวีท 37 ห้อง ห้องอาหาร สปาและบาร์ริมสระว่ายน้ำ ใกล้กับความสะดวกต่างๆ ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และสถานบันเทิงมากมาย
การเข้าซื้อกิจการธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจโรงแรม และเอาร์ทริกเกอร์ยังคงมองหาโอกาสเพิ่มเติมต่อไป โดยจะส่งตัวแทนร่วมในการประชุมสุดยอด Americas Lodging Investment Summit (ALIS) ในลอสแองเจลิสในเดือนกรกฎาคมนี้ และงาน Hotel Investment Conference Asia Pacific (HICAP) ในสิงคโปร์ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้