26.1 C
Bangkok
Wednesday, September 11, 2024
010
002
previous arrow
next arrow

ลอรีอัล กรุ๊ป เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 7.3% โตอย่างต่อเนื่องและเหนือกว่าตลาด

กลิชี่ : ลอรีอัล กรุ๊ป รายงานตัวเลขผลประกอบการครึ่งปีแรกปี 2567 มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 7.3%1 โดยมียอดขายมูลค่า 2.212 หมื่นล้านยูโร การเติบโตมีความสมดุลระหว่างมูลค่าและปริมาณ ด้วยการผสมผสานระหว่างการวิจัยและนวัตกรรมอันทรงพลังกับความคิดสร้างสรรค์ทางการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอนวัตกรรมที่ล้ำยุคให้กับผู้บริโภค และตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำในตลาดความงามของโลกที่ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง

นายนิโคลา ฮิโรนิมุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของลอรีอัล กรุ๊ป กล่าวถึงตัวเลขผลประกอบการดังกล่าวว่า “แรงขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของเราในตลาดเกิดใหม่ ยุโรป และอเมริกาเหนือ ช่วยทดแทนตลาดที่ซบเซาในจีน และสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยในธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดภาษีเพื่อการท่องเที่ยว เราเห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง พลวัตที่ไม่เคยหยุดนิ่งของแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค และส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง และแผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ ตลอดจนการเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและการโฆษณาเพื่อโปรโมทนวัตกรรมใหม่และแบรนด์ทั้ง 37 แบรนด์ของเรา เป็นแรงหนุนให้ลอรีอัล กรุ๊ป สามารถก้าวข้ามตลาดความงามระดับโลกได้อีกครั้ง

ในสภาพแวดล้อมที่ยังคงถูกกำหนดโดยความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ เรายังคงเห็นแนวโน้มที่ดีของตลาดความงาม และมั่นใจว่าพลังแห่งนวัตกรรมและความแข็งแกร่งของโมเดลแบบหลายขั้วของเราจะทำให้เราสามารถเอาชนะทุกความท้าทายและบรรลุเป้าหมายในการเติบได้ในปีนี้”

ผลการดำเนินงานตามแผนก

แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ เติบโตขึ้น 5.7%1 ด้วยกลยุทธ์การขายผลิตภัณฑ์หลากหลายช่องทาง (Omnichannel) การขยายตัวอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งในอีคอมเมิร์ซ และการจัดจำหน่ายแบบคัดสรร การเติบโตในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่คึกคักนี้ ได้รับแรงหนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่: เคเรสตาส พรีเมียร์ (Kérastase Première) และ ลอรีอัล โปรเฟสชันแนล (L’Oréal Professionnel) แอบโซลู รีแพร์ โมเลกุลาร์ (Absolut Repair Molecular)

แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค เติบโตขึ้น 8.9%1 ผลประกอบการครึ่งปีแรกตอกย้ำกลยุทธ์การทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงได้สำหรับทุกคน และกลยุทธ์ในการสร้างความพรีเมียมของแผนก แบรนด์หลักๆ ล้วนเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีแบรนด์ความงามอันดับหนึ่งของโลกอย่าง ลอรีอัล ปารีส (L’Oréal Paris) ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับสองหลัก

แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง เติบโตขึ้น 2.3%1 โดยมีการเติบโตแข็งแกร่งในยุโรป และขยายตัวในระดับตัวเลขสองหลักในอเมริกาเหนือ รวมถึงในตลาดเกิดใหม่ โดยรวมแล้ว น้ำหอมยังคงเป็นหมวดหมู่ที่คึกคักที่สุด แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูงยังเติบโตเหนือกว่าตลาดในทุกภูมิภาค ด้วยผลงานของแบรนด์กูตูร์ การฟื้นตัวของเมคอัพยังคงดำเนินต่อไป ด้วยแรงหนุนจากนวัตกรรมอันทรงพลังโดยอีฟ แซงต์ โลร็องต์ (Yves Saint Laurent) และอาร์มานี่ (Armani)

แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เติบโตขึ้น 16.4%1 โดยยังคงรักษาจังหวะการเติบโตแข็งแกร่งได้อย่างยอดเยี่ยม และเติบโตเหนือกว่าตลาดเวชสำอางซึ่งยังคงคึกตักต่อเนื่องแม้ว่าจะเผชิญกับภาวะการชะลอตัวลงในตลาดอเมริกา ลา โรช-โพเซย์ (La Roche-Posay) ยังคงเป็นแบรนด์ที่ทำรายได้สูงสุดให้กับแผนก อันเป็นผลมาจากความสำเร็จของนวัตกรรมล้ำยุคอย่าง “เมลา บี3” (MelaB3) ซึ่งจัดการกับปัญหาเม็ดสีผิวเฉพาะจุดโดยใช้ Melasyl™ นวัตกรรมส่วนผสมสิทธิบัตรล่าสุดจากลอรีอัล กรุ๊ป

Stacked from 20 images. Method=B (R=8,S=4)

ผลการดำเนินงานของภูมิภาค  SAPMENA–SSA เติบโตขึ้น 15.2%

ในเอเชียแปซิฟิกใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ แอฟริกาใต้ตอนใต้ ซึ่งประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งในภูมิภาคนี้ มีการเติบโตครอบคลุมทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์และแผนก และทั้งเชิงปริมาณและมูลค่า โดยในส่วนของมูลค่านั้น ได้รับแรงหนุนจากการผสมผสานระหว่างส่วนผสมและราคาอย่างสมดุล ประเทศที่ทำรายได้หลักๆ ได้แก่ กลุ่มออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์  ไทย ซาอุดีอาระเบีย และอินเดีย

แผนกเวชสำอางมีผลงานโดดเด่นที่สุด ด้วยแรงหนุนจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเซราวี เช่นเดียวกับแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ที่ขับเคลื่อนโดยลอรีอัล ปารีส และการ์นิเย่ เช่นเดียวกับแผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง ที่มี YSL Beauty เป็นแบรนด์ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม น้ำหอมยังคงเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วที่สุด ด้วยแรงหนุนจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ต่างๆ กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเติบโตแข็งแกร่งจากความสำเร็จของแผนกเวชสำอางและแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมได้รับแรงหนุนจากการสร้างความพรีเมียมทั้งในกลุ่มผู้บริโภคและช่างผมมืออาชีพ

ดูรายงานผลประกอบการได้ที่ www.loreal-finance.com

ผลงานด้านงานวิจัย เทคโนโลยีความงาม และดิจิทัล

– แผนกวิจัยและนวัตกรรม ลอรีอัล กรุ๊ป ร่วมกับมหาวิทยาลัยออริกอน ประสบความสำเร็จในการพัฒนาต้นแบบการพิมพ์ผิวหนังชีวภาพที่เลียนแบบผิวหนังมนุษย์เป็นครั้งแรก ผลลัพธ์จากนวัตกรรมสร้างผิวหนังนี้ช่วยให้สามารถสร้างโครงสร้างที่เหมือนผิวหนังได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของลอรีอัล กรุ๊ป ด้านนวัตกรรมและความงามที่ไม่ทดลองกับสัตว์

– ลอรีอัล กรุ๊ปได้จัดแสดงนวัตกรรมความงามมากมายที่งานวีว่า เทคโนโลยี ในกรุงปารีส อาทิ เทคโนโลยีเพื่อการบำรุงผิวหน้า Renergie Nano-Surfacer|400 Booster จากลังโคม, เครื่องวิเคราะห์ผิว Derma-Reader จากคีลส์, เครื่องวิเคราะห์สุขภาพเส้นผม My Hair [iD] – Hair Reader จากลอรีอัล โปรเฟสชันแนล, ผู้ช่วยความงามส่วนตัว Beauty Genius จากลอรีอัล ปารีส และ CREAITECH เครื่องมือสำหรับผลิตคอนเทนต์ความงามด้วย Gen AI

 – Cannes Lions International Festival of Creativity 2024 มอบรางวัลกรังด์ปรีซ์ สาขาการตลาดสื่อสังคมออนไลน์และอินฟลูเอนเซอร์ ให้กับเซราวี พร้อมกับรางวัลคานส์ ไลออนส์ อีกเก้ารางวัล ทำให้เซราวีเป็นหนึ่งใน 10 แบรนด์ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในงาน

ผลงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล

– มูดี้ส์ ได้ให้คะแนนการประเมินด้าน ESG แก่ลอรีอัล กรุ๊ป 74 คะแนนจาก 100 คะแนน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอุตสาหกรรมความงามอย่างมาก คะแนนดังกล่าวตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงด้านความยั่งยืนของลอรีอัล กรุ๊ปไปสู่รูปแบบธุรกิจที่มีความรับผิดชอบและครอบคลุมมากขึ้น ด้วยการตั้งเป้าการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ท้าทาย

– ลอรีอัล กรุ๊ปได้รับรางวัล RoSPA (ราชสมาคมเพื่อการป้องกันอุบัติเหตุ) รวม 69 รางวัล จากไซต์งาน 70 แห่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ด้านสุขภาพและความปลอดภัย

– เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของโปรแกรม L’Oréal for the Future บริษัทฯ ได้นำ EcoDesignCloud ของ Eviden มาใช้ สำหรับวัดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสื่อ ณ จุดขายและสื่อส่งเสริมการขาย

– มูลนิธิลอรีอัลและยูเนสโกประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลทุนวิจัย ลอรีอัล-ยูเนสโก เพื่อสตรีในด้านวิทยาศาสตร์ ระดับนานาชาติครั้งที่ 26 เพื่อเป็นเกียรติแก่ผลงานวิจัยบุกเบิกด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม นับตั้งแต่มีการก่อตั้งโครงการนี้ ผู้ได้รับรางวัลทุนวิจัยสตรี 7 คนจาก 132 คน ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวิทยาศาสตร์

L’Oréal Group Revealing an Increase in First Half Operating Results 7.3% Continued Growth and Outperformed the Market

Clichy : L’Oréal Group reports H1 2024 results with 7.3% growth1 , salesof €2.212billionGrowth is balanced between value and volume, driven by a combination of research And powerful innovations with unique marketing creativity enable the Company to deliver cutting-edge innovations to consumers and reinforce its position as a leader in the global beauty market that continues to be vibrant.

Commenting on the results, L’Oréal Group CEO Nicola Hironimus said: “ Our continued strong momentum in emerging markets, Europe and North America offset the weaker markets. In China, and given the unfavourable situation in the travel duty-free retail business, we are seeing rapid growth in the luxury beauty segment, the ever-changing dynamism of the FMCG segment and a steady increase in market share. The continuation of the Cosmeceutical Products Division and the Professional Hairdressing Products Division, as well as the continuation of promotional activities and advertising to promote new innovations and our 37 brands, are the driving forces that enable the L’Oréal Group to move forward. Crossing the global beauty market again

In an environment that continues to be shaped by economic and geopolitical tensions, we continue to see positive trends in the beauty market and are confident that the power of innovation and the strength of our multi-polar model will enable us to overcome any challenges. and achieve the growth target this year. ”

Performance results by department

Professional Hair Products Department Grows up 5.7 % 1 Driven by an omnichannelstrategy,rapidand strong expansion in e-commerce and curated distribution, growth in this vibrant hair care market was driven by the launch of a new product: Keres. TAS PREMIER (Kerastase Premiere ) AndL’Oreal Professional (L’Oréal Professionnel )Absolute Repair Molecular (Absolut Repair Molecular)

Consumer Products Division grew 8.9 % 1The first half results reinforce the division’s strategy of making products accessible andpremiumizing.Key brands all achieved strong growth, with No. 1 beauty brand A world like L’Oréal Paris , which has performed exceptionally well withcontinuous double-digit growth.

High-end beauty products department Grow Up 2.3% 1 With strong growth in Europe and double-digit growth in North America and emerging markets, overall fragrance remained the most dynamic category. The fine beauty segment also outperformed the market in all regions. The couture house’s revival in makeup continues, driven by powerful innovations from Yves Saint Laurent and Armani .

Cosmetic product department Grow Up 16.4% 1 It has maintained a strong growth rate and outperformed the cosmeceutical market, which continues to be buoyant despite the slowdown in the American market. La Roche- Posay )remains the highest-grossing brand for the division, largely due to the success of its groundbreaking innovation, “ MelaB3, ”whichtargets specific pigmentation issues usingMelasyl™,the latest patented ingredient innovation from L’Oréal Group

Regional Performance SAPMENA–SSA grows up 15.2%

In Asia Pacific South, the Middle East, North Africa, Southern Africa, of which Thailand is a part, growth was seen across product and division categories, as well as in both volume and value. In value terms, growth was driven by a mix of ingredients and Balanced prices, main income generating countries include Australia-New Zealand, Thailand, Saudi Arabia and India.

The Active Cosmetics division was the top performer, driven by strong growth at CeraVe, as were the Consumer Products division, driven by L’Oréal Paris and Garnier, as well as theHigh End Beauty division.With YSL Beautyas the top performer, fragrance remains the fastest growing category, driven by new product launches. Skincare grew strongly on the back of the success of the dermatology and cosmetics divisions. Consumer Goods Hair care products are driven by premiumization among both consumers and professional hairdressers.

View the financial report at www.loreal-finance.com.

Research work, beauty technology and digital technology

– L’Oréal Group’s Research and Innovation Division and the University of Oregon have successfully developed the first bioprinted skin prototype that mimics human skin. The results of this innovative skin-remodeling technology enable the creation of skin-like structures. Accurate and fast, which reinforces L’Oréal Group’s commitment to innovation and cruelty-free beauty.

– L’Oréal Group showcased a range of beauty innovations at Viva Technology in Paris, including  

– Lancôme’sRenergie Nano-Surfacer|400 Booster,Kiehl’sDerma-Readerskin analysis device,My Hair [iD]Hair Health Analyzer – Hair Readerfrom L’Oréal Professionnel, BeautyGeniusPersonal Beauty Assistantfrom L’Oréal Paris andCREAITECHBeauty Content Production ToolGen AI

– CannesLions International Festival of Creativity 2024presents Grand Prix awards The Social Media and Influencer Marketing category went to CeraVe, along with nine other Cannes Lions awards, making CeraVe one of the10most awarded brands at the event.

Environmental, Social and Governance Performance

– Moody’s awardedL’Oréal Group anESG score of74out of100, significantly above the beauty industry average. The score underscores L’Oréal Group’s transformation in sustainability. Towards a more responsible and inclusive business model by setting ambitious sustainability performance targets

– L’Oréal Group has received a total of69RoSPA (Royal Society for the Prevention of Accident) awards across70sites, demonstrating its strong commitment to health and safety.

– In line with the sustainability goals of theL’Oréal for the Future program, the company has implementedEviden’sEcoDesignCloudto measure the environmental impact of its point-of-sale and promotional materials.

– The L’Oréal Foundation and UNESCO announced the winners of the 26th L’Oréal-UNESCO International Research Fellowships for Women in Science,honoringpioneering scientific research. For Life and the Environment Since the inception of the program,sevenout of132women research fellowshave been awarded the Nobel Prize in Science.

Related Articles

Stay Connected

22,878FansLike
3,912FollowersFollow
22,000SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles