สถานการณ์ตลาดน้ำมัน สัปดาห์วันที่ 28 ก.ค.- 1 ส.ค. 68 และแนวโน้มสัปดาห์ 4 – 8 ส.ค. 68 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 68.79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับลดราคาลง -0.26 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปของ เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 65.79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับลดราคาลง -1.16 เหรียฐสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 70.94 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่ม +0.44ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าที่สิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับลดราคาลง -1.40 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 78.08 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.37 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 91.70 เหรียญสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงทางการค้า
* 27 ก.ค. 68 สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (European Union: EU) บรรลุข้อตกลงทางการค้า ส่งผลให้ภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อสินค้าส่วนใหญ่จาก EU ลดลงมาอยู่ที่ 15% จากเดิมซึ่งจะเก็บที่ 30% (ยกเว้นเครื่องบินและชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์บางประเภท และสินค้าเกษตรบางชนิดที่จะไม่มีกำแพงภาษี ขณะที่เหล็กและอลูมิเนียมยังคงมีกำแพงภาษี 50%)
* 27 ก.ค. 68 โฆษกประจำกลุ่ม Houthi ในเยเมน Yahya Saree ประกาศกลุ่ม Houthi จะโจมตีเรือติดธงทุกสัญชาติที่ทำธุรกิจกับอิสราเอล พร้อมกับกล่าวเตือนเพิ่มเติมว่าเรือจะถูกโจมตีในรัศมีการโจมตีของกลุ่ม Houthi แม้จะไม่ได้มุ่งหน้าไปยังอิสราเอลก็ตาม เพื่อกดดันให้อิสราเอลให้ยุติการโจมตีและยกเลิกการยึดครองพื้นที่ในฉนวนกาซา
* 28 ก.ค. 68 สหรัฐฯ มีแผนลดกรอบเวลาที่กำหนดให้รัสเซียกับยูเครนบรรลุข้อตกลงหยุดยิงจากเดิมภายใน 2 ก.ย. 68 เหลือเพียง 10-12 วัน (นับจาก 28 ก.ค. 68) มิฉะนั้นจะบังคับใช้มาตรการภาษีทุติยภูมิ (Secondary Tariffs) ต่อรัสเซีย โดยจะตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้า 100% ต่อประเทศที่นำเข้าสินค้าจากรัสเซีย อาทิ จีนและอินเดีย