ในกลุ่มโรคต้อที่เกิดกับดวงตาของเรา “โรคต้อกระจก” ถือว่าพบได้บ่อยที่สุด และจริง ๆ แล้วโรคนี้ไม่ได้พบแค่ในผู้สูงอายุ เพราะคนอายุน้อยก็เป็นโรคนี้ได้จากปัจจัยเสี่ยงใกล้ตัวที่เราอาจไม่รู้มาก่อน เช่น รังสี UV, การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยาบางประเภท โดยต้อกระจกทำให้เลนส์ตาขุ่นมัว ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น และหากปล่อยไว้ไม่รีบรักษาอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ วันนี้ พญ.จิรนันท์ ทรัพย์ทวีผลบุญ จักษุแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญการโรคต้อหิน ศูนย์จักษุ รพ.วิมุต จะมาเผยปัจจัยกระตุ้นต้อกระจกในคนอายุยังน้อย พร้อมเปิดสัญญาณเตือนของโรคและแนวทางป้องกัน ก่อนดวงตาของเราจะมองไม่ชัดเหมือนเดิม
“โรคต้อกระจก” คืออะไร
ต้อกระจก (Cataracts) คือโรคต้อตาชนิดหนึ่งที่เกิดจากความเสื่อมของเลนส์ดวงตา ทำให้เลนส์ตาที่ปกติมีความใสเกิดความขุ่นมัว ส่งผลให้ประสาทตารับแสงได้ไม่เต็มที่จนเกิดอาการมองไม่ชัดหรือตาพร่ามัว
แพทย์เตือน รังสี UV อันตราย เร่งให้เกิด “โรคต้อกระจก” ไวขึ้น
ต้อกระจกเกิดได้กับทุกคน แต่จะเกิดความเสื่อมช้าเร็วไม่เท่ากัน โดยปกติต้อกระจกเกิดจากอายุที่มากขึ้น พบบ่อยในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป และจะเริ่มรบกวนการมองเห็นมากขึ้นเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป ส่วนคนที่อายุยังน้อยก็เป็นโรคนี้ได้จากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น สูบบุหรี่จัด เคยผ่าตัดตา การใช้ยาสเตียรอยด์ มีโรคประจำตัวที่กระทบสุขภาพดวงตา หรือการประสบอุบัติเหตุบริเวณดวงตา พญ.จิรนันท์ ทรัพย์ทวีผลบุญ อธิบายต่อ “อีกหนึ่งความเสี่ยงที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้คือการอยู่กลางแดดบ่อย ๆ เพราะจริง ๆ แล้วรังสี UV โดยเฉพาะรังสี UVA ส่งผลต่อการเสื่อมของเลนส์ตาโดยตรง เพราะจะไปกระตุ้นให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ทำให้โปรตีนในเลนส์ตาเสื่อมสภาพและจับตัวเป็นก้อน หรือที่เราเห็นเป็นความขุ่นในดวงตา ดังนั้นใครที่อยู่กลางแดดเป็นประจำควรสวมแว่นกันแดดอยู่เสมอ และต้องเป็นแว่นกันแดดที่ได้มาตรฐาน มีการฉาบสารป้องกันรังสี UV”
มองไม่ชัด ค่าสายตาเปลี่ยน สัญญาณ “โรคต้อกระจก”
การเปลี่ยนแปลงของสายตาจากต้อกระจกมักสังเกตได้ยาก เนื่องจากอาการจะเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยอาการที่พบบ่อยคือ ตาพร่ามัว และค่าสายตาเปลี่ยนหลังจากที่คงที่มานาน “คนที่มีความขุ่นของตาเยอะประมาณหนึ่ง ถ้านำไฟฉายส่องจะพบเงาของม่านตาตกลงบนเลนส์แก้วตาที่อยู่กึ่งกลางตาดำ ส่วนคนที่มีสุขภาพเลนส์ตาปกติ แสงจะผ่านได้ดีและไม่ปรากฏเงา ซึ่งคนที่มีแนวโน้มเป็นต้อกระจกให้รีบมาตรวจกับจักษุแพทย์เพื่อประเมินอย่างละเอียด” พญ.จิรนันท์ ทรัพย์ทวีผลบุญ กล่าวเสริม
ต้อกระจก ปัจจุบันผ่าตัดรักษาง่าย ปลอดภัยสูง
ปกติจักษุแพทย์จะเป็นผู้ตรวจวินิจฉัยโรคต้อกระจก ซึ่งวินิจฉัยได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องส่งตรวจเพิ่มเติม ในอนาคตอาจมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ AI เข้ามาช่วยวินิจฉัยเบื้องต้นจากภาพถ่ายดวงตา ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับคนไข้ที่ไม่สะดวกมาโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมีการนำ AI มาใช้ในการคำนวณค่าเลนส์แก้วตาเทียมที่จะใส่ให้ผู้ป่วย ช่วยเพิ่มความแม่นยำจากการคำนวณแบบดั้งเดิม และช่วยแจ้งเตือนจุดอันตราย (Danger Zone) ระหว่างการผ่าตัด พญ.จิรนันท์ ทรัพย์ทวีผลบุญ อธิบายถึงการรักษาว่า “การรักษาโรคต้อกระจกจะพิจารณาจากความรุนแรงของอาการ ถ้าเป็นน้อยและยังไม่รบกวนการมองเห็น สามารถติดตามอาการไปก่อนได้ แต่ถ้าเริ่มกระทบการมองเห็นก็มีวิธีรักษาหลายแบบ อย่างแรกคือการใช้ยาหยอดตากลุ่มต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกได้ แต่ไม่ได้ช่วยให้หายขาด อีกวิธีคือการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียม ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะปัจจุบันมีเลนส์ระดับพรีเมียมที่ช่วยให้มองเห็นได้หลายระยะและลดแสงรบกวน แม้จะยังไม่สามารถทดแทนเลนส์ธรรมชาติได้สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีการใช้เลเซอร์ช่วยผ่าตัด ซึ่งส่วนมากใช้เฉพาะในผู้ป่วยที่มีถุงหุ้มเลนส์อ่อนแอ หรือผู้ที่เลนส์แก้วตาแข็งมากเกินกว่าจะสลายด้วยคลื่นความถี่สูงตามปกติได้”
การผ่าตัดต้อกระจกมีอัตราความสำเร็จสูงถึง 97-99% โดยแพทย์จะประเมินก่อนว่าคนไข้มีสุขภาพตาที่เหมาะกับการผ่าตัดหรือไม่ โดยผู้ที่ไม่เหมาะกับการผ่าตัดคือคนที่สูญเสียการมองเห็น จอตาเสียจากปัจจัยอื่นที่ไม่ใช่ต้อกระจก กระจกตาเสื่อม หรือดวงตาได้รับความเสียหายมาก เพราะอาจไม่เกิดประโยชน์หรือทำให้อาการแย่ลง หรือถ้าบางรายจำเป็นต้องผ่าตัด แพทย์อาจพิจารณาเปลี่ยนกระจกตาพร้อมกับรักษาต้อกระจกในการผ่าตัดครั้งเดียว
ผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดคืออาการตาอักเสบและตาแห้ง ซึ่งมักหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ และในช่วงหนึ่งเดือนหลังผ่าตัด ผู้ป่วยต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าตา งดล้างหน้า และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีการกระทบกระแทกดวงตา เพื่อให้แผลปิดสนิทและป้องกันการติดเชื้อ หากดวงตาติดเชื้อจะมีความยุ่งยากกว่าเดิม เพราะอาจต้องผ่าตัดนำเลนส์เทียมออก
“โรคต้อกระจกเกิดได้กับทุกวัย ดั้งนั้นต้องเริ่มดูแลสุขภาพตาตั้งแต่วันนี้ เริ่มจากการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกข้างนอกก็สวมแว่นกันแดดที่เคลือบสารกัน UV และไม่ซื้อยาหยอดตาที่มีสเตียรอยด์มาใช้เอง เพราะถ้าใช้นาน ๆ อาจทำให้เกิดต้อกระจกได้ ที่สำคัญคือต้องสังเกตการมองเห็นของตัวเองอยู่เสมอ ถ้ามีอาการผิดปกติ มองไม่ชัด ตาพร่ามัว ก็อยากให้เข้ามาพบแพทย์ทันที ดวงตาของเรามีคู่เดียว อยากให้ดูแลให้ดี จะได้มองเห็นชัดเจนไปนาน ๆ”
ผู้ที่สนใจปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลวิมุต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่ ศูนย์จักษุ ชั้น 5 โรงพยาบาลวิมุต เวลาทำการ 08:00 – 20:00 น. โทร. 0-2079-0058 หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือใช้บริการปรึกษาหมอออนไลน์
Blurred vision, cloudy eyes, risk of “cataracts” Doctors at Vimut Hospital reveal that older people are at risk of developing it, so take precautions before losing your vision.
In the group of eye diseases that occur in our eyes, “cataracts” are considered the most common. In fact, this disease is not only found in the elderly. Young people can also get this disease from risk factors that we may not have known before, such as UV rays, smoking, or using certain types of drugs. Cataracts cause the lens of the eye to become cloudy, affecting vision. And if left untreated, it can lead to severe complications that cause loss of vision. Today, Dr. Jiranan Traiptawiphonbun, an ophthalmologist and glaucoma specialist at the Eye Center, Vimut Hospital, will reveal the factors that trigger cataracts in young people, along with warning signs of the disease and prevention methods before our eyes are not as clear as before.
What is “cataract”?
Cataracts are a type of eye disease caused by the degeneration of the lens of the eye, causing the lens, which is normally clear, to become cloudy, resulting in the optic nerve not being able to receive light fully, resulting in blurred vision or blurred vision.
Doctors warn that UV rays are dangerous and can accelerate the development of cataracts.
Cataracts can happen to anyone, but the rate of degeneration varies. Cataracts are usually caused by aging, and are most common in people 50 years and older. They can start to affect vision more in people 60 years and older. People who are still young can also develop the disease due to other risk factors, such as heavy smoking, previous eye surgery, steroid use, chronic diseases that affect eye health, or accidents to the eye area. Dr. Jiranan Traiphuwiphonbun explained, “Another risk that most people don’t know about is being in the sun often. In fact, UV rays, especially UVA rays, directly affect the deterioration of the eye lens. They stimulate free radicals that cause the protein in the eye lens to deteriorate and clump, or what we see as cloudiness in the eyes. Therefore, anyone who is in the sun regularly should always wear sunglasses. And they must be standard sunglasses with UV protection coating.”
Blurred vision, changes in vision, signs of “cataracts”
Changes in vision from cataracts are often difficult to notice because the symptoms occur gradually. Common symptoms are blurred vision and changes in vision after a long period of stability. “For people with a moderate amount of cloudiness in the eyes, if a flashlight is shined on them, the shadow of the iris will fall on the lens in the center of the black eye. For people with normal lens health, light will pass through well and there will be no shadow. People who are prone to cataracts should see an ophthalmologist for a detailed assessment,” added Dr.
Cataract surgery is currently easy and safe to treat.
Normally, ophthalmologists diagnose cataracts immediately without the need for further examination. In the future, AI software may be developed to help with initial diagnosis from eye photos, which is beneficial for patients who are unable to visit the hospital. In addition, AI has been used to calculate the cost of artificial lenses to be inserted into patients, increasing the accuracy of traditional calculations and helping to alert the danger zone during surgery. Dr. Jiranan Traiphutthiphonbun explained the treatment, saying, “Cataract treatment will be based on the severity of the symptoms. If the symptoms are minor and do not interfere with vision, the symptoms can be monitored. However, if they start to affect vision, there are several treatment methods. The first is using antioxidant eye drops, which can delay the development of cataracts, but it does not completely cure them. Another method is to replace the artificial lens with surgery, which is the best method because there are currently premium lenses that help with vision at various distances and reduce light interference, although they cannot completely replace the natural lens. In addition, laser surgery is also used, which is mostly used only in patients with weak lens capsules or those whose lenses are too hard to be broken down with normal high-frequency waves.”
Cataract surgery has a success rate of 97-99%. The doctor will first assess whether the patient’s eye health is suitable for surgery. People who are not suitable for surgery are those who have lost their vision, have damaged retinas from factors other than cataracts, have corneal degeneration, or have severe damage to the eyes. It may not be beneficial or may make the symptoms worse. Or if some patients need surgery, the doctor may consider replacing the cornea along with treating the cataract in a single surgery.
Side effects after surgery are eye inflammation and dry eyes, which usually resolve on their own within a few weeks. For one month after surgery, patients must be careful not to let water get into their eyes, refrain from washing their face, and avoid activities that may impact the eyes in order to allow the wound to close completely and prevent infection. If the eyes become infected, it will be more complicated because surgery to remove the artificial lens may be required.
“Cataracts can happen to anyone at any age. Therefore, you must start taking care of your eye health today. Start with regular health check-ups, get enough rest, wear sunglasses with UV protection when you go outside, and do not buy eye drops that contain steroids to use yourself because if you use them for a long time, they can cause cataracts. Most importantly, you must always monitor your vision. If you have any abnormalities, such as blurred vision or blurred vision, you should see a doctor immediately. We only have one pair of eyes, so we should take good care of them so that we can see clearly for a long time,” concluded Dr. Jiranan Traipawipholbun.
Those interested in consulting a doctor at Vimut Hospital can inquire for more details and make an appointment at the Eye Center, 5th floor, Vimut Hospital, business hours 8:00 a.m. – 8:00 p.m. Tel. 0-2079-0058 or download the ViMUT Application to make an appointment or use the online doctor consultation service.
