การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย (GWM) จัดกิจกรรมท่องเที่ยวทางรถยนต์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Green Road Trip “ข้ามถิ่นแผ่นดินอีสาน”..ลองไปเที่ยวกันดูสักครั้ง..แล้วคุณจะหลงรัก.. ผืนแผ่นดินถิ่นอีสาน ระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคม 2565 ด้วยการใช้รถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV คอมแพ็คเอสยูวี ขุมพลังไฮบริด จำนวน 7 คัน
กิจกรรมท่องเที่ยวทางรถยนต์ภายใต้คอนเซ็ปต์ Green Road Trip “ข้ามถิ่นแผ่นดินอีสาน”..ลองไปเที่ยวกันดูสักครั้ง..แล้วคุณจะหลงรัก.. ผืนแผ่นดินถิ่นอีสานครั้งนี้ มี นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. เป็นประธานพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย นางสาวสุรีพร พงษ์พานิช ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง ททท. และคุณธัญญ์ฐิตา ฐิติศักดิ์มงคล ฝ่ายสื่อสารองค์กร ตัวแทนจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย (GWM) พิธีปล่อยรถยนต์และเป็นผู้นำในการพาคาราวานรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ออกเดินทางจากภาคกลางสู่ภาคอีสาน เส้นทาง กรุงเทพฯ-สระบุรี-ลพบุรี-นครราชสีมา-ชัยภูมิ-บุรีรัมย์
สำหรับ All New HAVAL H6 Hybrid SUV คอมแพ็คเอสยูวี ขุมพลังไฮบริด เกรท วอลล์ มอเตอร์ นำเข้ามาทำตลาดเป็นรถยนต์รุนแรกในประเทศไทย และได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย จนสามารถครองแชมป์ยอดขายคอมแพ็คเอสยูวีเป็นอับดับ 1 ในช่วงครึ่งปีแรก 2565 ที่ผ่านมา
หลังจากทำพิธีปล่อยตัวจากอาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คณะคาราวานแรลลี่ ออกเดินทางล้อไปยัง จังหวัดสระบุรี เพื่อเข้าเยี่ยมชมโชว์รูมและศูนย์บริการมตารฐานรถยนต์ภายใต้แบรนด์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทั้งนี้ นอกจาก All New HAVAL H6 Hybrid SUV คอมแพ็คเอสยูวี ขุมพลังไฮบริด รถยนต์ซึ่งเป็นขุมพลังทางเลือกให้คนไทยได้เลือกใช้แล้ว ก็ยังมีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ดีไซน์คลาสสิกที่อแฝงด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง Ora Good Cat และ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ขุมพลังไฮบริดน้องใหม่ล่าสุดของค่ายเกรท วอลล์ มอเตอร์ อีกด้วย
หลังจากนั้น เดินทางไปยังจังหวัดลพบุรี เพื่อเข้ากราบสักการะ “พระพุทธรูปางธรรมจักร” ณ วัดถ้ำเขาปรางคฺ์ พร้อมร่วมทำบุญ เพื่อเสนริมสิริมงคลก่อนจะตระท่องเที่ยวไปตามสถานที่ที่น่าสนใจในถิ่นอีสาน โดยจากเมืองละโว้ แรลลี่ คาราวาน Haval H6 ได้มุ่งหน้าสู่ จังหวัดชัยภูมิ เพื่อเดินทางเข้าชมความงดงามของทุ่งดอกกระเจียว ที่กำลังบานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งบนที่ราบสูง ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ขณเดียวกันคณะคาราวานก็เพลินตาเต็มอิ่มอย่างสุขใจกับธรรมชาติ ณ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” รวมทั้งความสวยงามของผาหินตั้ง
Day 2 ออกเดินทางกันแต่เช้าไปยัง “ชุมชนบ้านกระโดก” หรือ “หมู่บ้านขนมจีนอายุ 100 ปี จังหวัดนครราชสีมาเพื่อชมการสาธิตการทำเส้นขนมจีนโบราณ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาบรรพชน ที่สามารถนำมาต่อยอดสร้างรายได้ให้กับชาวชุมชนแน่นอนว่า ทริปนี้กับกิจกรรมนี้ เราไม่พลาดที่จะลอ้มลองของร่อยประจำถิ่น ขนมจีนแกงไก่ น้ำพริก อร่อยแซ่บ ไม่เสียแรงที่ดั้นด้นมาแดก จากนั้นมุ่งหน้าสู่” วัดประโดก” เพื่อชมความงดงามของโบสถ์เก่า อายุร่วม 300 ปี
เสร็จภารกิจชมวัดชมวา ก็บ่ายหน้าไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อแวะเยี่ยมชม วิสาหกิจชุมชน เพลาเพลิน เพื่อเข้ารับองค์ความรู้คุณประโยชน์ของสมุนไพรไทย.. ถัดจากนั้นเดินทางต่อไปยัง “ศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกเรียนพันธุ์ไทย
Day 3 คาราวานแรลลี่มุ่งหน้าสู่่ “สนามช้างอารีน่า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์” เช็กอินเข้าเยี่ยมชมความใหญ่โตและความอินเตอร์ของสนามแข่งรถยนต์ทางเรียบระดับโลก ซึ่งในปลายเดือนกันยายน 2565 นี้ จะเป็นสถานที่จัดการแข่งขันรถยนต์จักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการ MOTO GP 2022 จัดเป็นครั้งที่ 3 บนแผ่นดินไทย
เสร็จสิ้นภารกิจ คาราวานแรลลี่มุ่งหน้าสู่เมืองโคราช เพื่อเข้าเยี่ยมชม “อ่างเก็บน้ำเขายายเที่ยง” นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของนครราชสีมา ซึ่งมีนักเที่ยวคนไทยและต่างชาติหลายคนมองข้าม ซึ่งไฮไลท์ที่สนใจของเขายายเที่ยวคือ อ่างพักน้ำตอนบน โรงไฟฟ้าลำตะคอง
ณ บริเวณนี้ นักท่องเที่ยวสามารถชมกังหันลมยักษ์ ที่มีวิวเขื่อนลำตะคองเป็น Backgroup หากพอมีเวลาเยอะหน่อยหรือต้องการสัมผัสบรรยากาศที่นี่มากยิ่งขึ้น เราแนะนพให้ใช้บริการรถจักรยานเช่า ตระเวนปั่นเที่ยวรอบอ่างแบบเพลินๆ ก็สนุกไปอีกแบบ
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ เส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศบ้านเขายายเที่ยง เป็นเส้นทางป่าปลูกพื้นฟูระยะสั้น สิ้นสุดที่ผายายเที่ยงซึ่งเป็นจุดชมวิวสวยสุดบนเขา บนเขายายเที่ยงยังมีที่พักรีสอร์ตรอให้บริการนักเที่ยวอยู่พอสมควร ทั้งบ้านเขายายเที่ยงเหนือและเขายายเที่ยงใต้ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถยนต์ขึ้นได้เองเพราะโดยมากเป็นถนนลูกรังหรือคอนกรีต แต่บางช่วงเช่นทางเข้าผายายเที่ยง และขึ้นยอดสูงสุดเขายายเที่ยง เป็นทางลูกรัง ควรขับด้วยความระมัดระวัง
Day 4 ปิดท้ายทริปกันด้วยการเข้าเยี่ยมชม “ศูนย์เกษตรก้าวไกล” ที่มีชื่อเสียงด้านการปลูกพืช ผักไร้สารพิษ พร้อมกันกับการออกร้านของชาวบ้านชาวชุ่มชน ก่อนแยกย้ายกลับบ้านสมาชิกคาราวานต่างอุดหนุนซื้อผลิตภัณฑ์ติดไม้ติดมือกันคนละถุง 2 -3 ถุง
