เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ที่มียอดการขายดีที่สุดในอุตสาหกรรมด้วยการส่งเน็กซ์-เจน เดลล์ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ใหม่ 13 รุ่นเข้าสู่ตลาด พร้อมการออกแบบในการเร่งประสิทธิภาพในการทำงาน พร้อมเสริมความเสถียรในการประมวลผลอันทรงพลังเพื่อครอบคลุมการทำงานทั้งในดาต้าเซนเตอร์หลัก ไปจนถึงพับบลิคคลาวด์ขนาดใหญ่ (large-scale) และในพื้นที่ทำงานต่างๆ ของระบบเอดจ์ที่ปลายทาง
เน็กซ์-เจน PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ ทั้งในแบบแรคเมาท์ แบบทาวเวอร์ และแบบมัลติ-โหนด มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable 4th Gen รวมถึงซอฟต์แวร์และระบบเชิงวิศวกรรมในระดับแอดวานซ์จากเดลล์ เช่น การออกแบบ Smart Flow รูปแบบใหม่ที่ให้การจัดการการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการลงทุนที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ความสามารถที่ขยายเพิ่มขึ้นของ Dell APEX ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถใช้รูปแบบการใช้งานแบบ as-a-Service เพื่อการดำเนินงานด้าน IT ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น โดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรการประมวลผล (compute resources) ในขณะลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด
“ลูกค้ามาหาเดลล์เพื่อเซิร์ฟแวอร์ที่ง่ายต่อการจัดการ ไม่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับแอดวานซ์เทคโนโลยีที่ให้พลังในการขับเคลื่อนเวิร์กโหลดทางธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด” ริชาร์ด เจเรไมอาห์ ผู้จัดการทั่วไป ด้านดาต้า เซ็นเตอร์และคอมพิวท์ โซลูชัน เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าว “เดลล์ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์เน็กซ์-เจนของเราให้นวัตกรรมที่ไม่มีใครเทียบได้ในการช่วยยกระดับมาตรฐานด้านการจัดการประสิทธิภาพพลังงาน ประสิทธิภาพการทำงาน และความเสถียร์ที่สามารถไว้วางใจได้ ในขณะที่ให้ความเรียบง่ายในการปรับใช้รูปแบบการรักษาความปลอดภัยแบบ Zero Trust ให้เป็นไปอย่างง่ายดายเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นให้กับสภาพแวดล้อมการทำงานด้านไอทีที่มีทั้งหมดขององค์กร”
“องค์กรธุรกิจในประเทศไทยต่างแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในการตัดสินใจที่จะปฏิรูปปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตเพิ่มมากขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์เดลล์ Power Edge เน็กซ์-เจนใหม่ของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยลูกค้าในการจัดการกับความต้องการด้านเวิร์กโหลดที่มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น และยังให้ความสามารถในการปรับขยายขนาดระบบ (scalability) การทำงานในรูปแบบอัตโนมัติ (automation) การตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์รวมถึงการกู้คืนระบบให้กลับมาดำเนินการได้ตามปกติ (cyber-resilience) และการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพขึ้น” ฐิตพล บุญประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์เทคโนโลยีส์ กล่าว “นอกจากนี้ ความก้าวหน้าของซอฟต์แวร์และบริการของเรายังช่วยให้การติดตั้งระบบเป็นไปอย่างราบรื่นรวมถึงการบริหารจัดการไอทีก็สามารถทำได้ง่ายที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ในขณะที่ยังให้ลูกค้าสามารถดูแลจัดการควบคุมระบบไอทีได้อย่างเต็มที่”
นอกจากเซิร์ฟเวอร์ใหม่ทั้ง 13 รุ่นแล้ว เดลล์ยังประกาศเปิดตัวการขยายสายผลิตภัณฑ์เน็กซ์-เจนเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเวิร์กโหลดที่ต้องการการประมวลผลที่ทรงพลังเพื่อรองรับตั้งแต่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ไปจนถึงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ตลอดจนคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ ประกาศเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2565 เซิร์ฟเวอร์ตระกูล PowerEdge XE พร้อม GPU NVIDIA H100 Tensor Core และชุดซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise สำหรับสแต็คเต็มรูปแบบ การผลิตแพลตฟอร์ม AI ที่สร้างขึ้นจากความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์และแมชชีนเลิร์นนิ่ง ขณะเดียวกันเดลล์ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์เน็กซ์-เจนที่มี โปรเซสเซอร์ 4th Gen AMD EPYC มอบประสิทธิภาพและความก้าวหน้าด้านสตอเรจในขณะที่รวมเข้ากับสภาพแวดล้อมของลูกค้าที่มีอยู่เดิม
เซิร์ฟเวอร์ใหม่เอาใจผู้ให้บริการคลาวด์
การเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์เดลล์ PowerEdge HS5610 และ HS5620 เป็นการเสริมทัพโซลูชันสำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ให้สามารถบริหารจัดการดาต้าเซนเตอร์ขนาดใหญ่ ที่มีอุปกรณ์จากหลายผู้จำหน่าย มาพร้อมทางเลือกทั้ง 1U และ 2U ฟอร์มแฟคเตอร์ เครื่อง 2- ซ็อกเกตรุ่นใหม่นี้ จะมาพร้อมกับช่องระบายอากาศที่ดูแลได้ง่าย รวมทั้ง Dell Open Server Manager ซึ่งเป็นโซลูชันบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์แบบ OpenBMC ที่ช่วยให้การจัดการเซิร์ฟเวอร์จากหลายผู้จำหน่ายง่ายขึ้น
ประสิทธิภาพสูงขึ้น และบริหารจัดการง่ายดาย
เดลล์ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์เน็กซ์-เจนรุ่นใหม่ มีการพัฒนาประสิทธิภาพในการประมวลผลเพิ่มมากขึ้น รวมถึง Dell PowerEdge R760 ที่สามารถประมวลผลการทำงานของ AI ได้รวดเร็วขึ้นถึง 2.9 เท่า โดยอาศับเทคโนโลยี Intel Deep Learning Boost และ Intel Advanced Matrix Extension ที่อยู่ในโพรเซสเซอร์อินเทลซีออน เจน4 นอกจากนี้ PowerEdge R760 ยังให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น 20% สำหรับผู้ใช้งาน VDI และมากกว่า 50% สำหรับใช้งาน SAP Sales & Distribution บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ระบบ PowerEdge ยังสามารถซื้อเพิ่มหน่วยประมวลผลข้อมูล NVIDIA Bluefield-2 ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการประมวลผลและใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งการใช้งานคลาวด์ในรูปแบบไพรเวท ไฮบริดและมัลติคลาวด์
การเสริมประสิทธิภาพให้กับซอฟต์แวร์ตรวจสอบการทำงานของเดลล์และบริการใหม่ๆ ที่ช่วยให้การบริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์มีความสะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น
* Dell CloudIQ – ซอฟต์แวร์จากเดลล์ที่รวมเอาการตรวจสอบเครื่องแบบโพรแอคทีฟ แมชชีนเลิร์นนิ่งและการวิเคราะห์เชิงทำนายเข้าไว้ด้วยกัน ผลลัพธ์ที่ได้จึงช่วยให้เห็นข้อมูลภาพรวมของเซิร์ฟเวอร์ที่ชัดเจนและแม่นยำมากขึ้น การอัพเดตยังรวมถึงการพัฒนาระบบคาดการณ์ประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์ การเลือกบำรุงรักษาระบบ และการแสดงข้อมูลของ Virtualization แบบใหม่ด้วย
* บริการ Dell ProDeploy – บริการ Dell ProDeploy Factory Configuration ช่วยให้ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์มีความพร้อมในการติดตั้งและตั้งค่าล่วงหน้า (preconfigured)ให้กับระบบปฏิบัติการ ตลอดจนซอฟต์แวร์ไฮเพอร์ไวเซอร์และการตั้งค่าเซ็ตติ้งสำหรับ RAID, BIOS และ iDRAC ที่ลูกค้าต้องการได้ ส่วนบริการ Dell ProDeploy Rack Integration จะช่วยบริการจัดส่งและติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ที่พร้อมใช้งานเข้ากับตู้ Rack รวมถึงเชื่อมต่อกับเครือข่ายให้พร้อมใช้งาน เหมาะสำหรับบริษัทที่ต้องการจะขยายดาต้าเซนเตอร์ของตัวเองได้หรือปรับปรุงให้ระบบไอทีมีความทันสมัยมากขึ้น
* Dell iDRAC9 – เพราะลูกค้ากำลังมองหาระบบการจัดการเซิร์ฟเวอร์ที่มีความฉลาดและมีความสามารถในการทำงานได้โดยอัตโนมัติที่เพิ่มมากขึ้น ตัว Dell Remote Access Controller (iDRAC) ทำให้ระบบของเดลล์มีความง่ายต่อการติดตั้ง และตรวจสอบการทำงานได้ง่ายมากขึ้น โดยมาพร้อมกับคุณสมบัติที่อัพเดทใหม่ๆ อย่างเช่น ระบบ Certificate Expiry Notice ไปจนถึงการตรวจสอบการทำงานของ Dell Consoles และ GPU จากระยะไกล
ออกแบบมาเพื่อความยั่งยืน (sustainability)
เดลล์ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ได้รับการออกแบบด้วยความใส่ใจในด้านความยั่งยืน (sustainability) เป็นสำคัญ โดยลูกค้าจะได้รับประสิทธิภาพที่ดีขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge 14-เจน ใช้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable ที่เปิดตัวในปี 2560 ผลลัพธ์ที่ได้จึงทำให้สามารถประหยัดพื้นที่ในการวางเซิร์ฟเวอร์ อีกทั้งยังให้พลังและประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นในทุกรุ่น โดยมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจดังนี้
* Dell Smart Flow Design– คุณสมบัติใหม่ภายในชุดซอฟต์แวร์ควบคุม Dell Smart Cooling จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนอากาศและลดการใช้พลังงานของพัดลมลงได้มากถึง 52% เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์รุ่นก่อนหน้านี้ การออกแบบ Smart Flow จะช่วยให้เซิร์ฟเวอร์มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยให้ระบบสบายความร้อนใช้พลังงานน้อยลงเพื่อให้ดาต้าเซนเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
* ซอฟต์แวร์ Dell OpenManage Enterprise Power Manager 3.0 – ลูกค้าสามารถจัดการเป้าหมายการระบายความร้อนและการจัดการการใช้พลังงานได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถติดตามปริมาณคาร์บอนที่มีการปลดปล่อย (carbon emission) ได้เร็วมากถึง 82% เพื่อจำกัดการใช้พลังงาน และด้วยเครื่องมือที่ช่วยในเป้าการสร้างความยั่งยืน ลูกค้าสามารถดูการใช้งานโดยรวม การใช้งานเวอร์ชวลแมชชีน การใช้พลังงานส่วนต่างๆ รวมไปถึงระบบตรวจจับการรั่วไหลของระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว
* Electronic Product Environmental Assessment Tool (EPEAT) – เซิร์ฟเวอร์เดลล์ PowerEdge รุ่นใหม่ 4 รุ่นจะออกสู่ตลาดพร้อมการรับรองจาก EPEAT ระดับ Silver และอีก 46 รุ่นได้รับการรับรองจาก EPEAT ระดับ Bronze โดยฉลาก EPEAT ถือว่าเป็นข้อกำหนดมาตรฐานระดับโลกซึ่งครอบคลุมสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในการตัดสินใจเลือกซื้อ
แชมเปี้ยนในการสร้างแบบจำลองและชุดข้อมูลแบบแอดวานซ์
เดลล์ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ใหม่ช่วยให้องค์กรตอบรับแนวความคิดริเริ่มด้าน AI และ HPC ในการสร้างผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชาญฉลาดยิ่งขึ้น ภายใต้ความร่วมมือในการออกแบบร่วมกันกับทั้ง Intel และ NVIDIA ระบบใหม่นี้ได้ใช้เทคโนโลยี Smart Cooling และช่วยให้องค์กรสามารถควบคุม AI สำหรับการฝึกอบรมแบบจำลอง (model training) การสร้างโมเดลและการจำลองสถานการณ์ HPC (simulation) การอนุมานจากใจกลางที่ดาต้าเซ็นเตอร์ไปสู่ระบบเอดจ์ (core-to-edge) และการสรุปและแสดงข้อมูลออกมาให้อยู่ในรูปของแผนภาพ (data visualisation)
* PowerEdge XE9680 – เซิร์ฟเวอร์ 8x GPU ประสิทธิภาพสูงตัวแรกของเดลล์ ใช้ประโยชน์จาก GPU NVIDIA H100 Tensor Core แปดตัว หรือ NVIDIA A100 Tensor Core GPUs ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการออกแบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (air-cooled) ทั้งนี้ ตัวเซิร์ฟเวอร์ได้รวมเข้ากับโปรเซสเซอร์ 4th Gen Intel Xeon Scalable ที่กำลังจะมาถึงสองตัวและ GPU NVIDIA แปดตัวเข้าด้วยกัน เพื่อช่วยมอบประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับเวิร์กโหลด AI
* PowerEdge XE9640 – ประสิทธิภาพระดับ 2U เของเครื่องเน็กซ์-เจนที่ optimised 4x GPU PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ได้ผสานรวม โปรเซสเซอร์ Intel Xeon และ Intel Data Center GPU Max Series เข้าด้วยกัน ด้วยการระบายความร้อนด้วยของเหลวโดยตรงอย่างเต็มที่ ระบบได้รับการออกแบบให้ลดต้นทุนตค่าใช้จ่ายด้านพลังงานด้วยความหนาแน่นของแร็คที่มากขึ้น
* PowerEdge XE8640 – ประสิทธิภาพระบายความร้อนด้วยอากาศ 4U ที่ optimized GPU 4x เซิร์ฟเวอร์มาพร้อมกับ GPU NVIDIA H100 Tensor Core สี่ตัวและเทคโนโลยี NVIDIA NVLink พร้อมด้วยโปรเซสเซอร์ 4th Gen Intel Xeon Scalable ที่กำลังจะมาถึงสองตัว ตัวเครื่องได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยภาคธุรกิจในการพัฒนา ฝึกฝน และปรับใช้โมเดลแมชชีนเลิร์นนิ่งเพื่อเร่งความเร็วและดำเนินการวิเคราะห์แบบอัตโนมัติ
ประสิทธิภาพและตัวเลือกการจัดเก็บข้อมูลที่มากขึ้นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์แห่งอนาคต
เดลล์ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์เน็กซ์-เจน พร้อมโปรเซสเซอร์ AMD EPYC 4th Gen มอบประสิทธิภาพและความก้าวหน้าด้านสตอเรจในขณะที่หลอมรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีอยู่เดิมของลูกค้า เซิร์ฟเวอร์ชุดนี้เหมาะสำหรับองค์กรที่มีเวิร์กโหลดในระดับแอดวานซ์ อาทิ การวิเคราะห์ข้อมูล (data analytics), AI, การประมวลผล HPC ตลอดจนถึงการทำเวอร์ชวลไลเซชัน มีพร้อมในรูปแบบการกำหนดค่า (configuration) ทั้งแบบ 1- และ 2-ซ็อกเก็ต พร้อมรองรับคอร์ในการประมวลผลเพิ่มมากขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ระบบล่าสุดให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดสำหรับเซิร์ฟเวอร์ PowerEdge ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของ AMD ลูกค้าสามารถคาดหวังการปรับปรุงประสิทธิภาพสูงสุดถึง 121% พร้อมจำนวนไดรฟ์ด้านหน้าเพิ่มขึ้นสูงสุด 33% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ 2U และจำนวนไดรฟ์ด้านหน้าเพิ่มขึ้นสูงสุด 60% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ 1U
* PowerEdge R7625 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแอปพลิเคชั่นและการจัดเก็บข้อมูล ด้วยประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ dual 4th gen AMD EPYC เซิร์ฟเวอร์นี้ได้รับการออกแบบให้เป็นแกนหลัก (backbone) ของดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งนี้ ตัวแพลตฟอร์ม 2U แบบ 2 ซ็อกเก็ตนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถเร่งความเร็วฐานข้อมูลในหน่วยความจำได้มากกว่า 72% ซึ่งเหนือกว่าการส่ง SAP Sales & Distributions แบบ 2 และ 4 ซ็อกเก็ตอื่นๆ ทั้งหมดจนได้รับการบันทึกให้เป็นสถิติใหม่ของโลก
* PowerEdge R7615 คือเซิร์ฟเวอร์ 2U แบบซ็อกเก็ตเดียวที่มีแบนด์วิธหน่วยความจำที่เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า ความหนาแน่นของไดรฟ์ที่ได้รับการปรับปรุงได้รับการออกแบบมาเพื่อให้งานหลายอย่างเสร็จเร็วขึ้นโดยใช้พื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ที่เล็กลง ทั้งนี้ แพลตฟอร์มนี้ช่วยเร่งความเร็วเวิร์กโหลด AI ด้วยความสามารถในการขยายที่เร่งความเร็วสูงสุด จนกระทั่งได้รับสถิติการวัดประสิทธิภาพ AI ระดับโลก
* PowerEdge R6625 คือเซิร์ฟเวอร์ 1U สองซ็อกเก็ตที่ให้ความสมดุลที่เหมาะสมที่สุดในด้านประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และความหนาแน่น ตัวระบบเหมาะสำหรับ HPC เวิร์กโหลด หรือการเรียกใช้อินสแตนซ์โครงสร้างพื้นฐาน multiple VDI (virtual desktop infrastructure) ต่างๆ
* PowerEdge R6615 คือเซิร์ฟเวอร์ 1U แบบซ็อกเก็ตเดียวที่ให้ความหนาแน่น (density) ของเวอร์ชวลแมชชีนมากกว่ารุ่นก่อนหน้า การออกแบบที่เพรียวบางบางช่วยเพิ่มพลังในการประมวลผลในฟอร์มแฟกเตอร์ที่หนาแน่น (dense) ซึ่งจำกัดการพื้นที่ (footprint) ของดาต้าเซ็นเตอร์โดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพการทำงานใดๆ
ความเสถียรที่เชื่อถือได้และความปลอดภัย คือหัวใจหลัก
PowerEdge เซิร์ฟเวอร์เน็กซ์-เจนรุ่นใหม่จะช่วยเร่งการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานของระบบไอทีภายในองค์กรเข้าสู่แนวคิดแบบ Zero Trust ในระยะเวลาที่เร็วขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ จะถูกตรวจสอบ (verify ) ทุกครั้งที่มีการเข้าถึงข้อมูล โดยถือว่าผู้ใช้ทุกคนและอุปกรณ์ทุกชิ้นให้ถือว่ามีโอกาสที่จะเป็นต้นตอของภัยคุกคามในองค์กร โดยเป็นการตรวจสอบในระดับฮาร์ดแวร์ที่เรียกว่า Silicon-Based Hardware root of Trust ทำงานร่วมกับ Dell Secured Component Verification (SCV) ที่จะช่วยให้การตรวจสอบความปลอดภัยของซัพพลายเชนการตั้งแต่การออกแบบจนถึงการส่งมอบนั้นเป็นไปอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังรองรับการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย และการตรวสอบผู้ใช้ด้วย iDRAC ก่อนมีการอนุญาตให้เข้าถึงระบบอีกด้วย
ซัพพลายเชนที่ปลอดภัยยังช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาแนวทาง Zero Trust ขององค์กรได้ ทั้งนี้ Dell SCV มอบการตรวจสอบส่วนประกอบด้วยการเข้ารหัส ซึ่งจะขยายความปลอดภัยของระบบซัพพลายเชนไปยังไซต์ของลูกค้าได้
มอบประสบการณ์การประมวลผลที่ทันสมัยและปรับขยายขนาด (scalable) ได้
ลูกค้าที่มองหาความยืดหยุ่นสำหรับ OpEx สามารถใช้ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบการจ่ายค่าสมัครสมาชิก (subscription) ผ่าน Dell APEX ได้แล้ววันนี้ ทั้งนี้ การใช้การรวบรวมข้อมูลในแบบแอดวานซ์และการวัดผลด้วยโปรเซสเซอร์เป็นรายชั่วโมง ลูกค้าสามารถใช้รูปแบบที่ยืดหยุ่นเพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการทำโอเวอร์-โพรวิชันนิ่ง (over-provisioning) ให้กับความต้องการการประมวลผล