moomall เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม Social Commerce และลดข้อจำกัดของการซื้อสินค้าผ่าน Social Commerce ด้วยการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้ครบวงจร โดยจับมือพาร์ทเนอร์ชั้นนำเพื่อครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไอที การบริการ แบรนด์ร้านอาหาร ไปจนถึงสินค้าการเกษตร ฯลฯ พร้อมส่งต่อความรู้เพื่อสร้างโอกาสเรื่องการตลาดออนไลน์ให้เป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึง และ สร้างรายได้ได้จริง พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ ที่ต้องการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้ทุกคน ตอบรับการขยายตัวของตลาด E-Commerce ในประเทศไทยโดยอ้างอิงข้อมูลจาก Priceza คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 15-20 % ในปี 2565 – 2566 อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจจากวันเดอร์แมน ธอมสัน คนไทยมีสัดส่วนซื้อสินค้าผ่าน Social Commerce สูงที่สุดอยู่ที่ 88% เป็นประเทศที่มีค่าเฉลี่ยในการซื้อขายผ่าน Social Commerce มากที่สุดในโลกเมื่อปีที่ผ่านมา
นายบุญชัย ลิ่มอติบูลย์ ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน moomall เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จของ moomall ที่ผ่านมาหลังเปิดตัวแพลตฟอร์มที่เป็น Social Commerce เพื่อให้ทุกคนสามารถทำการตลาดผ่าน Social Media สร้างคอนเทนต์ สร้างตัวตนในการบอกต่อสินค้า เป็นการบอกต่อสินค้าที่จริงใจ เข้าถึงง่าย และช่วยสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนซื้อและคนขาย การทำการตลาดแบบนี้ไม่ต้องเสียเงินค่าโฆษณาใดๆ ทำให้เราสามารถนำค่าโฆษณามาคืนเป็นค่าการตลาดให้กับผู้บริโภค เป็นการสร้างโมเดลที่เปลี่ยนการช้อปปิ้งออนไลน์ ให้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ที่สร้างเงิน โดย moomall มีแบรนด์สินค้าและบริการที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน รวมรายการสินค้ากว่า 10,000 รายการ มีแบรนด์รายใหญ่กว่า 60 แบรนด์ เช่น โลตัส โออิชิ, ปั๊มน้ำมันพีที, บีควิก สเนลไวท์, สมูทอี, เด็กสมบูรณ์, ข้าวแสนดี, ทีวีไดเร็ค ฯลฯ ซึ่งในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 มียอดขายกว่า 25 ล้านบาท โดยมีอัตราการซื้อซ้ำอยู่ที่ 58% และมีสมาชิกหลายท่านที่สร้างรายได้ถึงหลักแสนต่อเดือน (ข้อมูล 1 ส.ค.2565)
สำหรับในปีนี้ moomall เดินหน้าพัฒนาความหลากหลายของสินค้าให้ครบครัน โดยล่าสุดเพื่อเอาใจสายช้อป moomall เปิดตัว E- voucher ของเครือเซ็นทรัล สามารถใช้ได้กับร้านค้าในเครือเซ็นทรัล Central Department Store, Robinson, Powerbuy, Super Sports, B2S, Muji, มัตสึโมโต คิโยชิ , ไทวัสดุ ฯลฯ
นอกจากนี้ยังเพิ่มรายการสินค้าภาคการเกษตร มอบความสะดวกให้เกษตรกรและร้านค้าปุ๋ย โดยสมาชิกสามารถสั่งซื้อปุ๋ยเพื่อการเกษตรผ่านแอปฯ โดยเลือกได้ทั้งการสั่งซื้อแบบออนไลน์ และ นัดรับที่คลังสินค้า พร้อมรับสิทธิประโยชน์จากระบบการจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิก ด้วยกลยุทธ์นี้ทำให้ยอดขายสินค้าปุ๋ยมีอัตราการเติบโตคิดเป็น 400 % เปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และยังคงมียอดขายอย่างต่อเนื่อง” นายบุญชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า
“สำหรับปี 2565 moomall มีแผนในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Social Commerce เน้น 4 ส่วนหลัก ดังนี้
1.เพิ่มจำนวนสมาชิกที่สามารถสร้างรายได้
2.เพิ่มจำนวนพาร์ทเนอร์
3.เพิ่มจำนวนแบรนด์รายใหญ่ ทั้งสินค้า และ บริการ
4.กิจกรรมส่งเสริมให้สมาชิกสามารถสร้างรายได้ได้ง่ายขึ้น
โดยคาดการณ์ว่า จากแผนพัฒนาดังกล่าว moomall จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 60% ในปีนี้ และเชื่อมั่นว่า ความนิยมของ Social Commerce จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูล Statista Research Department พบว่าในปี 2564 ประเทศไทยมีผู้ซื้อสินค้าผ่าน Social Commerce แบ่งเป็นสัดส่วนของ Facebook 86% Line 68 % Instagram 35% Twitter 8% เนื่องจากสถานการณ์โควิด 19 ผลักดันให้ผู้บริโภคเปลี่ยนรูปแบบการช้อปปิ้ง
Social Commerce เป็นช่องทางออนไลน์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย จากเดิมที่เราใช้ Social media เพื่อการพูดคุยสื่อสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่ปัจจุบัน Social media กลายเป็นช่องทางการสร้างความน่าเชื่อถือจนสามารถสร้างเป็นมูลค่ายอดขายสินค้าได้ และเป็นเครื่องมือที่หลายธุรกิจให้ความสำคัญมากขึ้น โลกออนไลน์เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือ “การปรับตัว เรียนรู้ และลงมือทำ”
สามารถสอบถาม ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.moomall.com อัพเดทข่าวสารกับ moomall ที่ไลน์ @moomallofficial และเฟซบุ๊กแฟนเพจ moomallofficial หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=1l1rsNo3ySI&t=9s