โดรนฟอร์จ (Drone Forge) บริษัทสตาร์ทอัพด้านอากาศยานจากออสเตรเลีย ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับ แอร์บัส เฮลิคอปเตอร์ (Airbus Helicopters) เพื่อจัดซื้อระบบอากาศยานไร้คนขับเฟล็กซ์โรเตอร์ (Flexrotor) จำนวน 6 ระบบ รวมทั้งหมด 17 ลำ นับเป็นคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ Flexrotor นับตั้งแต่เปิดตัว
ระบบ Flexrotor ที่พร้อมปฏิบัติภารกิจจะถูกปรับแต่งให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานที่หลากหลายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครอบคลุมตั้งแต่การลาดตระเวนชายฝั่ง ภารกิจในพื้นที่สูงภายในประเทศ ไปจนถึงการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานและการประเมินสภาพแวดล้อมทางทะเล
อากาศยานไร้คนขับ (UAV) แต่ละลำจะติดตั้งเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงหนักที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการปฏิบัติการทางทะเลโดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความพร้อมด้านเชื้อเพลิง และความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ทางเรือ นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายสตาร์ลิงค์ (Starlink) ช่วยให้สามารถปฏิบัติการนอกแนวสายตา (Beyond Line of Sight) พร้อมส่งข้อมูลสถานการณ์แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ Flexrotor ยังติดตั้งเทคโนโลยีภาพถ่าย PT-6 ที่ให้ภาพนิ่งความละเอียดสูงและมีระบบรักษาเสถียรภาพ รองรับภารกิจด้านข่าวกรอง การเฝ้าระวัง และการลาดตระเวนทางทะเลในวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายโทมัส ไซม์ส (Thomas Symes) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Drone Forge กล่าวว่า “เรามั่นใจอย่างยิ่งว่า Flexrotor ซึ่งได้รับการพัฒนาจากพื้นฐานวิศวกรรมที่แข็งแกร่ง จะช่วยเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ ๆ ด้วยโซลูชันที่ผ่านการพิสูจน์แล้วในภารกิจที่ต้องการข้อมูลข่าวกรองแบบเรียลไทม์ ความยืดหยุ่น และความน่าเชื่อถือสูง” เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “เราตั้งตารอที่จะบูรณาการระบบ Flexrotor เข้ากับการใช้งานเชิงพาณิชย์ในภูมิภาคนี้”
นายโอลิวิเยร์ มิชาลง รองประธานบริหาร ฝ่ายธุรกิจระดับโลกของ Airbus Helicopters กล่าวว่า “คำสั่งซื้อครั้งสำคัญนี้นับเป็นหมุดหมายแห่งความร่วมมือระหว่างแอร์บัสและ Drone Forge และตอกย้ำพันธกิจร่วมของเราที่มุ่งส่งมอบศักยภาพการปฏิบัติการร่วมระหว่างอากาศยานที่มีนักบินและไร้นักบินอันล้ำสมัยให้แก่ผู้ปฏิบัติงานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก” เขากล่าวต่อว่า “เรามีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งในประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของ Flexrotor ว่าอากาศยานลำนี้จะเป็นพลังเสริมสำคัญที่ช่วยยกระดับความเป็นเลิศในการปฏิบัติการด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ”
ข้อตกลงนี้มีขึ้นต่อเนื่องจากหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ที่แอร์บัส และ Drone Forge เพิ่งลงนามร่วมกัน เพื่อเดินหน้าความร่วมมือในการนำระบบอากาศยานไร้คนขับ Flexrotor ไปใช้งานจริง และบูรณาการเข้ากับภารกิจปฏิบัติการต่าง ๆ
Flexrotor ถือเป็นอากาศยานไร้คนขับรุ่นล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ UAS ของแอร์บัส โดยเป็นอากาศยานขึ้นลงทางดิ่ง (Vertical Takeoff and Landing: VTOL) ที่ทันสมัย มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด 25 กิโลกรัม (55 ปอนด์) ออกแบบมาเพื่อรองรับภารกิจด้านข่าวกรอง การเฝ้าระวัง การระบุตำแหน่งเป้าหมาย และการลาดตระเวน (Intelligence, Surveillance, Target Acquisition and Reconnaissance: ISTAR) โดยสามารถปฏิบัติการต่อเนื่องได้ยาวนานกว่า 12–14 ชั่วโมงในสภาพการใช้งานทั่วไป Flexrotor สามารถติดตั้งอุปกรณ์บรรทุกได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบตรวจจับภาพด้วยแสง (Electro-Optical System) หรือเซ็นเซอร์ขั้นสูงอื่น ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้านของลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่น อีกทั้งยังสามารถขึ้นบินและลงจอดได้อย่างอัตโนมัติ ทั้งบนบกและในทะเล โดยใช้พื้นที่เพียง 3.7 x 3.7 เมตร (12 x 12 ฟุต) จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับภารกิจภาคสนามหรือปฏิบัติการเชิงสำรวจที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่