พฤกษา โฮลดิ้ง เผยแผนธุรกิจปี 2568 เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านการอยู่อาศัยที่ผสานความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being) ควบคู่การบริการด้านสุขภาพ ตั้งเป้ารายได้รวม 23,500 ล้านบาท โฟกัสธุรกิจหลักอสังหาริมทรัพย์ และเฮลท์แคร์ ปรับพอร์ตโฟลิโอต่อเนื่อง เพิ่มสัดส่วนตลาดบ้านระดับกลางถึงบน ต่อยอดธุรกิจพรีคาสท์ พร้อมรุกตลาดก่อสร้างเต็มรูปแบบ ด้านธุรกิจการดูแลสุขภาพเติบโตต่อเนื่องในทุกมิติ เตรียมขยายโรงพยาบาลเฉพาะทาง รองรับความต้องการอีก 3 แห่ง
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า “ปี 2567 ที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดอสังหาฯ เผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารที่ยังคงสูงอยู่ ทำให้พฤกษามีรายได้รวมอยู่ที่ 21,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิที่ 456 ล้านบาท ทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ที่ 31.3% โดยยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน (Net gearing ratio) ต่ำที่ 0.31 เท่า สำหรับในปี 2568 เรามุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลัก ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ และเฮลท์แคร์ ยึดหลักการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน และเน้นการสร้างสรรค์โครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สมดุลทั้งสุขภาพและความสะดวกสบาย”
ปี 2568 ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 23,500 ล้านบาท ชู 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ (1) กลยุทธ์เชิงรับเพื่อรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน (Strategic Positioning Strategy) ด้วยการบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นการจัดการและปรับโครงสร้างสินทรัพย์ให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของตลาด เสริมสร้างสภาพคล่องด้วยการรักษากระแสเงินสดและเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง รองรับการลงทุนในอนาคต พร้อมปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนอย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ (2) กลยุทธ์เชิงรุก เพื่อสร้างการเติบโตท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย (Resilient Growth Strategy) ด้วยการสร้างนิยามใหม่ของแนวคิดการออกแบบที่อยู่อาศัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย พร้อมขับเคลื่อนการลงทุนและเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพทั้งในและต่างชาติ
คุณธีระ คุณทองมา และ นพ.สุวาณิช
นายธีระ ทองวิไล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2568 พฤกษาวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 22 โครงการ มูลค่ารวม 23,400 ล้านบาท แบ่งเป็น ทาวน์เฮาส์ 8 โครงการ มูลค่า 4,900 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 5 โครงการ มูลค่า 8,100 ล้านบาท เน้นพัฒนาโครงการเวลเนส เรสซิเดนซ์ และโครงการที่มีจุดเด่นด้านทำเล โดยในปี 2568 จะมีการเปิดตัวแบรนด์ระดับบนหลายโครงการ เช่น The Palm, The Reserve และ Chapter โดยมีสัดส่วนสินค้าในกลุ่มราคามากกว่า 7 ล้านบาท ราว 50% และโครงการที่ใกล้เมืองมากขึ้นและมีขนาดเล็กลง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบัน ตั้งเป้ายอดขายที่ 19,800 ล้านบาท และยอดขายผ่านโครงการ JV อีก 3,200 ล้านบาท รวมถึงยอดโอน 18,700 ล้านบาท และยอดโอนผ่านโครงการ JV อีก 1,600 ล้านบาท ซึ่งในส่วนนี้จะรับรู้เป็นกำไรจากการลงทุนใน JV
ด้านกลยุทธ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ปี 2568 ชู 2 กลยุทธ์ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์หลักของบริษัทฯ ได้แก่ (1) กลยุทธ์เชิงรับเพื่อรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน (Strategic Positioning Strategy) ผ่านการปรับปรุงพอร์ตโฟลิโอจำหน่ายที่ดินที่ไม่ได้อยู่ในแผนการพัฒนา มูลค่า 1,000 ล้านบาท และพัฒนาโครงการใหม่จากที่ดินที่มีอยู่เดิมมูลค่ารวม 2,900 ล้านบาท เร่งปิดโครงการเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ได้อีก 31 โครงการ และปรับสัดส่วนโครงการแนวราบจาก ทาวน์เฮาส์ ต่อ บ้านเดี่ยว จาก 60:40 เป็น 50:50 ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ด้วยการแบ่งโซนนิ่ง ครอบคลุมเป็น 6 โซนหลัก เและ การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Stewardship) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและก่อสร้างด้วยเทคโนโลยีจากอินโนพรีคาสท์ และ อินโนโฮม คอนสตรัคชั่น ขณะที่ กลยุทธ์ที่ (2) กลยุทธ์เชิงรุก เพื่อสร้างการเติบโตท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทาย (Resilient Growth Strategy) มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและแข็งแกร่ง ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ โดยจะเน้นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับ Ultra-premium segment เช่น THE RESERVE, THE PALM สร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ส่งเสริมการอยู่อาศัยเพื่อสุขภาพ (Well-being-focused collaborative synergy) มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์สุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเป็นรูปธรรม และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ พร้อมโอนคอนโดใหม่ในปีนี้อีก 4 โครงการ (Strengthening Catalyst) เพื่อรักษามาร์จิ้นในระดับสูงไว้ได้ ซึ่งมั่นใจว่าด้วยกลยุทธ์ทั้งหมดนี้จะทำให้สร้างกำไรมากขึ้นได้ในปีนี้
ด้านธุรกิจพรีคาสท์และก่อสร้าง เตรียมขยายการผลิตและนำเสนอบริการที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยโรงงานพรีคาสท์ซึ่งเป็นโรงงานสีเขียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิต 5.2 ล้านตารางเมตรต่อปี และยังเป็นโรงงานปลอดขยะ (Zero-Waste) และลดคาร์บอนแห่งแรก ในปี 2568 ธุรกิจพรีคาสท์ตั้งเป้ารายได้ 2,100 ล้านบาท เน้นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดให้มากขึ้น เช่น ผนังน้ำหนักเบา (Lightweight Wall) กำแพงกันดิน (Retaining Wall) และรั้วสำเร็จรูป (Project Fence) ในขณะที่ธุรกิจก่อสร้างตั้งเป้ารายได้ 5,400 ล้านบาท มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าทั้ง B2B และ B2C สำหรับการสร้างบ้านในระดับราคา 10 – 30 ล้านบาท
ด้านธุรกิจการดูแลสุขภาพ นายแพทย์สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต กล่าวว่า ธุรกิจการดูแลสุขภาพของโรงพยาบาลมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ โดยในปี 2567 กลุ่มวิมุตมีรายได้ 2,187 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน มี EBITDA อยู่ที่ 112 ล้านบาท รายได้หลักมาจากศัลยกรรม การตรวจสุขภาพ การดูแลเด็ก แผนกฉุกเฉิน แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ กระดูกสันหลัง สูตินรีเวช และระบบทางเดินอาหาร
สำหรับปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ 2,600 ล้านบาท และกลยุทธ์สำคัญในปี 2568 ได้แก่ 1) พัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ทางด้านสุขภาพปอด จักษุ กระดูกสันหลัง ต่อมไร้ท่อ ศัลยกรรม กุมารเวช ระบบทางเดินอาหารและตับ หัวใจและหลอดเลือด 2) ยกระดับการดำเนินงานที่เป็นเลิศ การบริหารต้นทุน และการใช้ทรัพยากรในกลุ่มบริษัทฯ ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ จัดซื้อ การตลาด การเงิน เทคโนโลยีสารสนเทศ และ 3) การพัฒนาด้านสุขภาพและการลงทุน เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดโรงพยาบาลเฉพาะทางเพิ่มอีก 3 แห่ง บริเวณย่านทองหล่อ สุขุมวิท และปิ่นเกล้า และการสร้างความร่วมมือกับธุรกิจในกลุ่มพฤกษา เพื่อยกระดับที่อยู่อาศัยเพื่อสุขภาพและสร้างรายได้เพิ่มเติม
“พฤกษา โฮลดิ้ง เดินหน้าสู่อนาคตด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี ผ่านการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพสูง การขยายธุรกิจพรีคาสท์และก่อสร้างที่ทันสมัย และการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ครบวงจร โดยยึดหลักความยั่งยืน (Sustainability) เป็นแกนหลักของการดำเนินงาน เพื่อสร้างสังคมที่ดีและความมั่นคงและเติบโตในระยะยาว” นายทองมา กล่าวเสริม
Pruksa Sets 2025 Business Roadmap to Lead in Wellness Residences Driving Housing Development with Integrated Healthcare
Pruksa Holding has unveiled its 2025 business plan, reinforcing its leadership in housing development integrated with well-being and healthcare services. The company targets a total revenue of 23,500 million Baht, focusing on its core businesses in real estate and healthcare. The company continues to adjust its portfolio, increasing its market share in the mid-to-high-end housing segment, expanding its precast business, and entering into the full-scale construction market. Meanwhile, the healthcare sector is set for continuous expansion in every dimension, with plans to establish three new specialized hospitals to meet rising demand.
Mr. Thongma Vijitpongpun, Acting Group Chief Executive Officer of Pruksa Holding Public Company Limited, state “In 2024, the overall real estate market faced significant challenges due to economic situation and persistently high mortgage rejection rates from banks. Despite these hurdles, Pruksa recorded a total revenue of 21,000 million Baht, a net profit of 456 million baht, and a gross profit margin of 31.3%. The company maintained a strong financial position, with a low net gearing ratio of 0.31 times. For 2025, we are committed to continuous growth by focusing on our core businesses—real estate and healthcare—while upholding sustainable development principles and delivering housing projects that promote a balanced lifestyle with well-being and convenience.”
The company targets its 2025 revenue at 23,500 million baht by focusing two main strategies. (1) Defensive Strategy: using Strategic Positioning Strategy through enhancing asset efficiency by restructuring the portfolio in line with market demand, enhancing liquidity by maintaining strong cash flow management, ensuring financial stability for future investments, and increasing cost management efficiency systematically and consistently. (2) Offensive Strategy: using Resilient Growth Strategy by redefining residential design to align with healthcare and well-being standards while driving investment and fostering strategic partnerships with potential business allies, both domestic and and international.
Mr. Dhira Thongwilai, Chief Executive Officer of Pruksa Real Estate, revealed that in 2025, Pruksa plans to launch 22 new projects worth 23,400 million Baht, comprising 8 townhouse projects (4,900 million Baht), 9 single-detached house projects (10,400 million Baht), and 5 condominium projects (8,100 million Baht). The company will focus on wellness residence projects and prime-location developments. Additionally, new projects of high-end brands such as The Palm, The Reserve, and Chapter will be launched, with approximately 50% of the portfolio consisting of properties priced above 7 million Baht. To meet the needs of modern customers, Pruksa will also launch smaller and more centrally located projects. The company targets total sales of 19,800 million Baht, with an additional JV project sales of 3,200 million Baht, as well as transfers of 18,700 million Baht and an additional JV project transfers of 1,600 million Baht, which will contribute to investment profits.
2025 Two Main Strategies of Real Estate Business are (1) Defensive Strategy: using Strategic Positioning Strategy through portfolio optimization by liquidating non-core land assets worth 1,000 million Baht. As well as, developing new projects on existing land, worth a total of 2,900 million Baht. Expediting the closure of 31 projects. Adjusting the townhouse-to-single-detached home ratio from 60:40 to 50:50 to better align with market demand. Enhancing operational efficiency by zoning management into six main zones and improving inventory management by increasing production and construction efficiency through Inno Precast and Inno Home Construction technologies. (2) Offensive Strategy: using Resilient Growth Strategy by driving sustainable and strong growth by launching new projects, focusing on well-known brands in the Ultra-Premium segment such as THE RESERVE and THE PALM. Establishing strategic partnerships to promote Well-being-focused synergy. Innovating housing products and services to improve health and quality of life. Expanding new business opportunities to strengthen brand positioning. Transferring four new condominium projects this year (Strengthening Catalyst) to maintain high-margin profitability. With these strategies in place, we are confident that they will drive increased profitability this year.
Regarding precast & construction businesses, Pruksa is set to expand production and offer a more comprehensive range of services through its green precast factory—the largest in Thailand, with an annual production capacity of 5.2 million square meters. The factory is also zero-waste and the first carbon-reducing factory. For 2025, the precast business targets 2,100 million Baht in revenue, focusing on expanding and diversifying the product ranges to better serve market demands including lightweight walls, retaining walls, and project fences. Meanwhile, the construction business aims for 5,400 million Baht in revenue, with a focus on targeting both B2B and B2C clients for home construction projects priced in the 10-30 million Baht price range.
Dr. Suvanich Triamchanchoochai, Director of ViMUT Hospital, stated that Pruksa’s healthcare business continues to grow across all dimensions. In 2024, ViMUT Group recorded a revenue of 2,187 million Baht, reflecting a 20% year-on-year increase, with an EBITDA of 112 million Baht. The primary sources of revenue included surgery, health check-ups, pediatric care, emergency services, orthopedic and spinal surgery, obstetrics and gynecology, and gastroenterology.
For 2025, ViMUT Group aims to achieve a revenue of 2,600 million Baht, with three key strategies: (1) Establishing Centers of Medical Excellence in areas such as pulmonary health, ophthalmology, spinal care, endocrinology, surgery, pediatrics, gastroenterology, hepatology, cardiology, and vascular health. (2) Enhancing operational excellence by improving cost efficiency, resource utilization across group entities (e.g., procurement, marketing, finance, and information technology), and overall business synergies. (3) Healthcare expansion and investment, including the launch of three additional specialized hospitals in Thonglor, Sukhumvit, and Pinklao while fostering partnerships within the Pruksa ecosystem to develop health-centric housing solutions and generate additional revenue streams.
“Pruksa Holding is advancing into the future with a strong commitment to enhancing quality of life through high-quality housing developments, modernized precast and construction businesses, and building a comprehensive healthcare service system. Sustainability remains our core operating principle, driving us to create a better society, long-term stability, and continuous growth,” Mr. Thongma added.
