LiveIn เดินหน้าขยายธุรกิจให้เช่าที่พักอาศัยระยะยาวในประเทศไทย หลังจาก Malaysia Debt Ventures Berhad หรือ MDV หน่วยงานย่อยกระทรวงการคลัง ในการดูแลกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมประเทศมาเลเซีย สนับสนุนทุนกว่า 320 ล้านบาท
มร. กัว เวิน ไค (Keek Wen Khai) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LiveIn ผู้นำในกลุ่มธุรกิจให้เช่าที่พักอาศัยระยะยาวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้รับทุนจาก Malaysia Debt Ventures Berhad หรือ MDV หน่วยงานย่อยของกระทรวงการคลัง ภายใต้การดูแลกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมประเทศมาเลเซีย ที่ได้ดึงผู้ลงทุนรายอื่นจากประเทศทรงอิทธิพลระดับโลก อาทิ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น เกาหลี และสหรัฐอเมริกา เพื่อเร่งการเติบโตของ LiveIn ในภูมิภาคนี้ การได้รับทุนเพิ่มในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำกลยุทธ์การดำเนินงานที่ผ่านมาของบริษัท และช่วยให้เรามีสามารถเร่งขยายการลงทุนในประเทศไทยและภูมิภาคนี้ได้มากขึ้น โดยแนวโน้มการเติบโตทางการตลาดของ LiveIn นั้นมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสำรวจตลาดใหม่ๆ และสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาบริหารจัดการเพื่อผลิกโฉมธุรกิจให้เช่าที่พักอาศัย
จากการได้รับทุนเพิ่มในครั้งนี้ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัท มีมูลค่าเงินลงทุนรวมเป็นเงิน 320 ล้านบาท โดยเงินทุนสนับสนุนก้อนใหม่นี้จะช่วยเร่งผลักดันการขยายธุรกิจของ LiveIn ในประเทศไทย ให้กลายเป็นผู้นำตลาดให้เช่าที่พักอาศัย ที่สะดวกสบายและราคาเหมาะสม มีศักยภาพในการเข้าถึงเจ้าของอาคารต่างๆ ควบคู่กับการเข้าถึงความต้องการของผู้เช่า รวมถึงการให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำแนะนำในการตกแต่ง ไปจนถึงการให้คำแนะนำด้านการบริหารจัดการ การเพิ่มผู้ใช้งาน และกระบวนการชำระเงิน แก่ผู้ให้เช่า ได้เร็วมากยิ่งขึ้น
MR.Nizam Mohamed Nadzri ซีอีโอของ MDV กล่าวว่า “การจัดหาเงินทุนสนับสนุน LiveIn นั้นสอดคล้องกับความตั้งใจหลักของเราในการสนับสนุนสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูง ซึ่งพร้อมที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในภาคธุรกิจดังกล่าว ผลงานการเติบโตที่แข็งแกร่งของ LiveIn และแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ชูนวัตกรรม สะท้อนตรงกับเป้าหมายของ MDV ในการยกระดับสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีต่างๆ ในประเทศ การระดมทุนครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตของสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีของมาเลเซีย เน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งและความสามารถของภาคเทคโนโลยีของมาเลเซียในตลาดโลก”
