32.2 C
Bangkok
Thursday, December 26, 2024
010
002
previous arrow
next arrow

ราคาน้ำมันดิบโลกผันผวนจากการระบาดของ COVID-19 ในทวีปเอเชีย

ปตท. เผยผลการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดน้ำมัน สัปดาห์ที่ 24-28 พ.ค. 64 และแนวโน้ม 31 พ.ค.-4 มิ.ย. 64 โดยตลาดน้ำมันสำเร็จรูปเบรนท์ (ICE Brent) ราคา 68.83เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้น +1.55 ตลาดน้ำมันสำเร็จรูป เวสท์เท็กซัสฯ (NYMEX WTI) ราคา 66.30 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +2.17 เหรียญสหรัฐฯ ตลาดน้ำมันสำเร็จรูปดูไบ (Dubai) ราคา 66.85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ บาร์เรล ปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.89เหรียญ สหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปซื้อซื้อขายล่วงหน้าประเทศสิงคโปร์ ราคาเบนซินออกเทน 95 ปรับราคาเพิ่มขึ้น +1.43 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 76.63 เหรียญ สหรัฐฯ ราคาน้ำมันดีเซลราคาปรับราคาเพิ่มขึ้น +0.75 เหรียญ สหรัฐฯ มาเป็นราคา 74.75 เหรียญสหรัฐฯ

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

* เศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่ง โดยอัตราการเติบโตในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 6.4 % เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สูงกว่าไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 4.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยตลาดแรงงาน และการลงทุนเพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณ ฟื้นตัว และได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากนโยบายการคลังที่ประธานาธิบดี Joe Biden ดำเนินการร่างงบประมาณประจำปีเป็นครั้งแรก วงเงินสูงถึง 8.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2574 โดยใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐาน อุดหนุนภาคครัวเรือนที่ประสบปัญหาจาก COVID-19 ทั้งนี้รัฐบาลจะใช้เงินจากการขึ้นอัตราภาษีรายได้นิติบุคคล

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

* อุปสงค์น้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหลายประเทศในเอเชีย ล่าสุด Muhyiddin Yassin นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศ Lockdown ขั้นสูงสุดทั่วประเทศวันที่ 1-14 มิ.ย. 64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียรายงาน ณ วันที่ 30 พ.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 9,020 รายต่อวัน

แนวโน้มราคาน้ำมัน

                ทีมวิเคราะห์ตลาดต่างประเทศ หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ทางเทคนิคราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 65.5-69.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล การเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ (Joint Comprehensive Plan of Action หรือ JCPOA) ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ในรอบที่ 5 ได้เริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยมีอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย และเยอรมนี เป็นคนกลางในการเจรจา และตลาดคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วๆ นี้ 

ทั้งนี้ Reuters คาดว่า หากสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจะเพิ่มขึ้นประมาณ 0.5–1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบในเดือน เม.ย. 64 อยู่ที่ 0.75 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ให้ติดตามผลการประชุมของกลุ่ม OPEC และพันธมิตร (OPEC+) เป็นการประชุมในรูปแบบ Online วันที่ 1 มิ.ย. 64 เพื่อประเมินแนวโน้มการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน และพิจารณามาตรการลดปริมาณการผลิตสำหรับเดือน มิ.ย. 64 และ ก.ค. 64

อย่างไรก็ดีตลาดคาดว่ากลุ่ม OPEC+ จะไม่ปรับมาตรการลดปริมาณการผลิตจากข้อตกลงเดิม แม้จะมีความกังวลว่าอิหร่านอาจกลับมาส่งออกน้ำมัน

Related Articles

Stay Connected

22,878FansLike
3,912FollowersFollow
22,100SubscribersSubscribe
- Advertisement -spot_img

Latest Articles